วันอังคารที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เวลา ๑๔.๓๙ น. พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ นำคณะผู้บริหาร มจร พร้อมด้วยทานบดีผู้ถวายการอุปถัมภ์ มจร เยี่ยมชม เกาะเปียโน มรดกโลก นครเซียะเหมิน
เกาะกู่ลั่งหยวี่หรือเกาะเปียโน Gulangyu Island เป็นเกาะที่ได้รับการสมญานามว่าเป็นเกาะแห่งดนตรี เนื่องจากผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนั้นนิยมชมชอบดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะเปียโนจะเป็นเครื่องเล่นดนตรีที่คนบนเกาะนี้โปรดปรานเป็นที่สุด เกือบทุกหลังคาเรือนของบ้านบนเกาะนี้จะมีเปียโนไว้เล่น นอกจากนี้บนเกาะยังมีพิพิธภัณฑ์เปียโนจัดแสดงเครื่องเปียโนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
Gulangyu เป็นเกาะซึ่งประเทศจีนได้มีการทำสนธิสัญญาที่เกิดจากการสูญเสียของจีนใยุคสงครามฝิ่นครั้งแรกและสนธิสัญญานานกิง เพื่อยกเกาะนี้ให้ต่างชาติ ในปี ค.ศ. ๑๘๔๒ ดังนั้นเราจะพบเห็นสถาปัตยกรรมสไตล์เด่นยุควิกตอเรียตลอดโดยทั่วไปในสิ่งก่อสร้างต่างๆบนเกาะ
Gulangyu Island เป็นเกาะที่ถือครอบครองโดย ๑๓ ประเทศ รวมทั้งอังกฤษฝรั่งเศสและญี่ปุ่น มีสถานกงสุล มีการจัดตั้งโบสถ์และโรงพยาบาล Gulangyu ตกอยู่ในการปกครองของประเทศญี่ปุ่น ตามข้อตกลงระหว่างประเทศในปี ค.ศ. ๑๙๐๓ โดยญี่ปุ่นเข้ายึดครองเกาะเริ่มในปี ค.ศ.๑๙๔๒ จนถึงสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกันของประชากรบนเกาะคือ ภาษาฮกเกี้ยน
Gulangyu Island เคยเป็นสถานที่พำนักของชาวตะวันตกในช่วงสมัยการล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตก เพราะเคยเป็นแหล่งอาศัยของชาวต่างชาติ จึงทำให้มีความหลากหลายของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมทางตะวันตกหลากหลายรูปแบบ
สำหรับที่มาของชื่อเกาะเปียโน เพราะแทบทุกบ้านบนเกาะ รวมกันแล้วหลายร้อยตัว จึงได้มีการรวบรวมเปียนโนที่เก่าแก่มาไว้ในพิพิธภัณฑ์เปียนโน จึงเป็นที่มาของชื่อ “เกาะเปียโน” หรือ “เมืองเปียโน แต่โดยความเป็นจริงแล้วชื่อเดิมจริงๆของเกาะนี้ ที่แปลจากชื่อภาษาจีน gu lang หมายความว่า คลื่นกลอง เพราะมีที่มาจากเสียงที่สร้างขึ้นโดยคลื่นมหาสมุทรกระทบกับแนวหินและ แนวปะการัง ว่ากันว่า ถ้ามาเซียะเหมิน แล้วไม่มาเยือนเกาะเปียโน ถือว่ายังไม่ถึงเซียะเหมิน
เครดิตข้อมูล : SD lnternational Education Ltd.