วันจันทร์ที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๓๐ น. ผ่านระบบ Zoom Meeting พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน,ผศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑ เป็นประธานในการประชุม การนี้ที่ประชุมได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณ พระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ.๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มจร, พระราชวชิรศาสนวิเทศ (สำรวจ กมโล) เจ้าอาวาสวัดไทยนอร์เวย์ ประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป ราชอาณาจักรนอร์เวย์, พระครูสมุทรวชิรานุวัตร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร พระธรรมทูตสมทบ รุ่นที่ ๓๐ และนายอุทัย มณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นต้น พร้อมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
การนี้ เมื่อกรรมการครบองค์ประชุม พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน ประธานที่ประชุมได้ขอโอกาสที่ประชุมได้กล่าวนำบูชาพระรัตนตรัยและเปิดการประชุมตามวาระ โดยได้แจ้งให้ทราบถึงการประชุมเตรียมความพร้อมในวันนี้ กล่าวขอบคุณและอนุโมทนาคณะกรรมการทุกท่านที่สละเวลาให้เกียรติเข้าร่วมประชุม การดำเนินงานโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศ รุ่นที่ ๑ เป็นการต่อยอดที่สำคัญจากโครงการอบรมในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จมาก่อน โดยเฉพาะจากประสบการณ์การจัดอบรมที่วัดไทยนอร์เวย์ทั้งสองครั้ง และที่วัดพุทธวิหารอัมสเตอร์ดัม ภายใต้การนำของพระราชวชิรศาสนวิเทศและพระครูปลัดสุวัฒนอาจารคุณ มาปรับใช้ การอบรมนี้มุ่งสร้างเครือข่ายธรรมทูตคฤหัสถ์ที่เข้มแข็ง พัฒนาศักยภาพฆราวาสให้เป็นผู้นำทางพระพุทธศาสนา และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างธรรมทูตในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความร่วมมือในวงกว้าง อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในระยะยาว
การดำเนินการประชุมในวาระแจ้งเพื่อทราบ ประธานได้แจ้งให้ทราบถึงการกราบทูลถวายรายงานเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชว่า เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา เวลา ๑๕.๑๕ น. เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานโอกาสให้พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) พร้อมด้วยพระครูสุตรัตนบัณฑิต ผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต เข้าเฝ้าถวายสักการะ ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กราบทูลรายงานผลการดำเนินงานโครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ และ ๓๐ โครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในต่างประเทศ และโครงการอบรมธรรมทูตในประเทศ รุ่นที่ ๑ และประทานโอกาสให้พระครูสุตรัตนบัณฑิต ผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต ได้ทูลถวายหนังสืออนุสรณ์พระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ และ ๓๐ โดยสมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระเมตตาตรัสอนุโมทนา
หลังจากนั้นประธานได้มอบหมายให้ พระครูสุตรัตนบัณฑิต ผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต และกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ ได้เสนอวาระการประชุมตามลำดับ โดยมีวาระการแจ้งเพื่อทราบ (๑) เรื่อง การอนุมัติการดำเนินงานโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑/๒๕๖๘ (๒) เรื่อง ประกาศมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑/๒๕๖๘ ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑ ประจำปี ๒๕๖๘ ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาจุฬาอาศรม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา (๓) เรื่อง จำนวนผู้สมัครเข้ารับการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑/๒๕๖๘ จำนวนทั้งสิ้น ๒๐๘ คน โครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ 1 ถือว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้สมัครหลากหลายภาคส่วน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสังคมไทย โดยมีผู้สมัครหญิงมากกว่าชาย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60.10 และ 39.90 ตามลำดับ ที่น่าสนใจคือมีผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูงเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งผู้มีตำแหน่งทางวิชาการ อาทิ รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ และระดับดุษฎีบัณฑิต รวมถึงข้าราชการทหารและตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีแม่ชีและชาวต่างชาติให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการด้วย แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความพร้อมของบุคลากรที่จะร่วมสืบสานพระพุทธศาสนาในฐานะธรรมทูตคฤหัสถ์ สำหรับวาระเสนอเพื่อพิจารณาที่ประชุมได้ร่วมพิจารณา ๔ วาระ ดังนี้
(๑) เรื่อง หลักสูตรการอบรมโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑/๒๕๖๘ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบโดยวิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ร่วมกับองค์กรพระพุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศ มุ่งเน้นการพัฒนาสมรรถนะธรรมทูตคฤหัสถ์แบบองค์รวม ผ่านการอบรมเข้มข้น ๓ วัน ณ มจร วังน้อย และศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาจุฬาอาศรม โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับนานาชาติ เนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมทั้งการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อการใช้ชีวิตและการเผยแผ่ การพัฒนาสมรรถนะธรรมทูตคฤหัสถ์แบบองค์รวม การบูรณาการเทคโนโลยีกับการเผยแผ่ธรรมะ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ และการพัฒนาโครงการเผยแผ่เชิงรุก มีระบบการติดตามและประเมินผลที่ชัดเจน
การนี้ พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ.๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มจร ได้กล่าวชื่นชมว่า หลักสูตรการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑ นับเป็นมิติใหม่ของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย ชื่นชมและอนุโมทนากับรองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและคณะ ที่ได้ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางรากฐานอย่างเป็นระบบและคำนึงถึงมาตรฐานความเป็นรุ่นที่ ๑ การรับรองความเป็นธรรมทูตคฤหัสถ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของคณะสงฆ์ไทย เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับในเบื้องต้น การพัฒนาและต่อยอดในเรื่องหลักสูตรนี้ ต้องกำหนดเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ทั้งเรื่องจรรยาบรรณการเป็นธรรมทูตคฤหัสถ์ เพื่อเป็นการวางมาตรฐานที่จะเป็นต้นแบบให้กับรุ่นต่อๆ ไป อันจะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายธรรมทูตคฤหัสถ์ที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ขออนุโมทนาชื่นชมกับฝ่ายกิจการต่างประเทศและคณะทีมงาน
พระราชวชิรศาสนวิเทศ (สำรวจ กมโล) เจ้าอาวาสวัดไทยนอร์เวย์ และประธานสหภาพ พระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป ได้กล่าวชื่นชมว่า หลักสูตรการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑ เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างพลังการเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านบทบาทของฆราวาส ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานพระธรรมทูตในต่างประเทศ พบว่า คฤหัสถ์มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนงานคณะสงฆ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านพระธรรมทูต การพัฒนาศักยภาพธรรมทูตคฤหัสถ์จึงเป็นการยกระดับการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นการยกย่องคุณูปการของฆราวาสที่อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาให้เป็นที่ประจักษ์
นายอุทัย มณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ ได้กล่าวชื่นชมว่า หลักสูตรการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ 1 เป็นการริเริ่มที่มีคุณค่ายิ่งของวิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในการสร้างพื้นที่และระบบการทำงานที่เป็นรูปธรรมสำหรับคฤหัสถ์ที่ปรารถนาจะสนับสนุนงานคณะสงฆ์ นับเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างเครือข่ายการทำงานอย่างเป็นระบบ ขอกราบขอบพระคุณมหาวิทยาลัยที่ได้จัดตั้งโครงการอันทรงคุณค่านี้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนาศักยภาพฆราวาสเพื่อสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน
(๒) เรื่อง (ร่าง) กำหนดการอบรมโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑ ได้รับการออกแบบอย่างเป็นระบบตามนโยบายของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและคณะสงฆ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๙-๓๑ มกราคม ๒๕๖๘ ณ มจร วังน้อย และศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาจุฬาอาศรม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีกิจกรรมที่หลากหลายทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เริ่มจากพิธีเปิดและการปฐมนิเทศ การบรรยายพิเศษเรื่อง Smart Buddhist Ambassador การเสวนาลานธรรม “ก้าวข้ามพรมแดน” และการแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ ไปจนถึงกิจกรรม Buddhist Eco-Ambassadors และการสร้างเครือข่ายธรรมทูตคฤหัสถ์ มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเผยแผ่ธรรมะและการทำงานในสังคมพหุวัฒนธรรม ภายใต้การดูแลของวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและระบบการติดตามประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ ที่ประชุมให้เพิ่มเติมกิจกรรมในช่วงหลังจากทำวัตรเย็นให้มีการสมาทานศีล ๘ ขึ้นกรรมฐานและรับธรรมโอวาทจากพระเดชพระคุณพระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ.๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มจร เมตตาเป็นประธานการสอนธรรมนำปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐานในโครงการ
(๓) เรื่อง การประเมินโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑ การพิจารณาวาระนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาว่า โครงการฯ ได้รับการออกแบบอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ โดยแบ่งการประเมินเป็น 4 ระยะ คือ การประเมินก่อนการอบรม การประเมินระหว่างการอบรม การประเมินหลังการอบรม และการติดตามผล ใช้เครื่องมือประเมินที่หลากหลายทั้งแบบทดสอบ การสังเกตพฤติกรรม การประเมินผลงาน และการสัมภาษณ์ ครอบคลุมประเด็นสำคัญทั้งด้านความรู้ ทักษะ ทัศนคติ และการประยุกต์ใช้ โดยกำหนดเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนและมีการติดตามผลต่อเนื่องถึง 1 ปี ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการประเมินผลที่มีทั้งผู้เชี่ยวชาญภายในและภายนอก เพื่อนำผลการประเมินมาพัฒนาหลักสูตรและวางแผนการดำเนินงานในอนาคต และที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่า การออกแบบการประเมินคณะทำงานออกแบบได้อย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติแล้ว ขอให้ฝ่ายเลขานุการและคณะได้ดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนดด้วยหน่วยงานมีภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องดำเนินการจำเป็นต้องวางแผนในการทำงานให้เสร็จภายในกรอบเวลา
(๔) เรื่อง การเตรียมความพร้อมโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ ๑ การเตรียมความพร้อมโครงการฯ ได้ดำเนินการอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกด้าน โดยฝ่ายเลขานุการได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายในหลายมิติ ตั้งแต่การขออนุมัติดำเนินงานโครงการ การจัดทำประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการ การประสานงานด้านสถานที่ ที่พัก และยานพาหนะ การติดต่อประสานวิทยากรและผู้บริหาร ตลอดจนการจัดเตรียมพิธีการต่างๆ รวมถึงการถ่ายทอดสดกิจกรรม การจัดการด้านภัตตาหารและน้ำปานะ เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
การนี้ พระครูปลัดอุทัย พลเทโว, ดร. รองผู้อำนวยการส่วนธรรมนิเทศ และประธานศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาจุฬาอาศรม กล่าวว่า มีความยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ 1 โดยทางศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาจุฬาอาศรมมีความพร้อมอย่างยิ่งในการให้บริการด้านสถานที่พักและสถานที่จัดอบรม ซึ่งมีบรรยากาศที่เหมาะสมและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เอื้อต่อการเรียนรู้และปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการรองรับการจัดอบรมในระดับสากล ทางศูนย์ฯ พร้อมที่จะดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมอบรมอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้การอบรมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
พระครูสมุทรวชิรานุวัตร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร พระธรรมทูตสมทบรุ่นที่ ๓๐ ได้กล่าวเสริมในที่ประชุมว่า มีความยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ 1 การอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในฐานะพระธรรมทูตสมทบและผู้บริหารคณะสงฆ์ยินดีที่จะประสานงานและส่งเสริมให้คฤหัสถ์ในเขตปกครองได้เข้าร่วมการอบรม เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการช่วยงานคณะสงฆ์และเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
นางสาวศิรินภา กองวัสกุลณี ผู้อำนวยการส่วนงานบริหาร ผู้แทนพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรปัญญาจารย์, รศ.ดร. ผู้อำนวยการสถาบันพระไตรปิฎกศึกษา กล่าวว่า ในนามของสถาบันพระไตรปิฎกศึกษา มจร มีความยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการอบรมธรรมทูตคฤหัสถ์ในประเทศ รุ่นที่ 1 อย่างเต็มกำลัง ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในพระไตรปิฎกอย่างลึกซึ้ง สถาบันพระไตรปิฎกศึกษายินดีที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพธรรมทูตคฤหัสถ์ให้สามารถเผยแผ่หลักธรรมคำสอนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาสืบไป
พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ได้กล่าวปิดการประชุมว่า “เกล้าฯ ขอกราบขอบพระคุณในเมตตาของพระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ. ที่ได้เมตตาให้ข้อเสนอแนะ อันทรงคุณค่า ขอกราบขอบพระคุณพระราชวชิรศาสนวิเทศที่ได้ริเริ่มงานธรรมทูตคฤหัสถ์และให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่ได้สละเวลาอันมีค่ามาร่วมประชุมและให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง การประชุมในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจในการสร้างความเข้มแข็งให้กับงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านบทบาทของธรรมทูตคฤหัสถ์ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสืบสานพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป ขออนุโมทนาและขออาราธนาคุณ พระศรีรัตนตรัยอวยพรให้ทุกท่านเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยและสัมฤทธิผลในธรรมทุกประการ” พระมหาสุรศักดิ์กล่าวปิดการประชุมในตอนท้ายและอาราธนานิมนต์พระราชวชิรศาสนวิเทศได้เมตตากล่าวนำบูชาพระรัตนตรัย